บริษัท แวร์สแวป จำกัด (“บริษัท”) ขอแนะนำให้ท่านทำความเข้าใจนโยบายส่วนบุคคล (privacy policy) นี้ เนื่องจาก นโยบายนี้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติ ต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่างๆ ของท่าน เป็นต้น เพื่อให้ท่านได้รับทราบถึง นโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัท ตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ผู้ใช้บริการ พนักงาน รวมตลอดถึงคู่ค้าของบริษัท ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงได้จัดให้มีมาตรการในการเก็บรักษา และป้องกันตามมาตราฐานของกฎหมาย ข้อกำหนด และระเบียบเกี่ยวกับ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 อย่างเคร่งครัด ดังต่อไปนี้
บริษัท ได้เก็บรวบรวมข้อมูลของท่านผ่าน2 ช่องทาง ได้แก่
1. ข้อมูลที่ท่านแสดงและส่งมอบให้กับบริษัทผ่านแบบฟอร์มออนไลน์
2. ข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมผ่านเว็บไซต์ของบริษัท
3. ข้อมูลที่ท่านส่งมอบให้กับบริษัทผ่านช่องทางออนไลน์อื่นๆ เช่น LINE Instagram Facebook และอีเมล์
3.1 บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอันเกี่ยวกับการใช้บริการในปัจจุบันและที่อาจมีเพิ่มขึ้นในอนาคต ดังต่อไปนี้
(1) ข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเกิด เพศ สัญชาติ ภาพถ่าย ข้อมูลอุปกรณ์อิเล็ก ทรอนิกส์ เป็นต้น
(2) ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น
(3) ข้อมูลพฤติกรรมการใช้บริการ หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริการ ที่มีการเชื่อมต่อหรืออาจเชื่อมต่อบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของบริษัท เช่น ภาพ เสียงหรือเนื้อหาข้อมูลการสนทนาของท่านกับฝ่ายบริการลูกค้า เป็นต้น
(4) ข้อมูลทางด้านการเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลบัตรเครดิต และข้อมูลการชำระเงิน เป็นต้น
(5) ข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์การใช้บริการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังในกรณีที่เกิดปัญหาการใช้งาน
(6) ข้อมูลที่บันทึกในระบบรักษาความปลอดภัย เช่น ข้อมูลการบันทึกจากโทรทัศน์วงจรปิด (กล้องวงจรปิด) เป็นต้น
(7) ข้อมูลเพื่อให้บริการเฉพาะกลุ่มลูกค้า เช่น บุคคลที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นหรือการได้ยิน
(8) ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับบริษัทเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำขอตามกฎหมายของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและ/หรือคำสั่งศาล
3.2 บริษัท อาจจัดเก็บบันทึกข้อมูลการจราจรคอมพิวเตอร์หรือการเข้าออกเว็บไซต์ (Log Files) ของท่าน โดยจะจัดเก็บข้อมูลประเภท หมายเลขไอพี (IP Address) เวลาการเข้าใช้งาน เป็นต้น
3.3 คุกกี้
คุกกี้ คือ ไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่จัดเก็บข้อมูลซึ่งแลกเปลี่ยนระหว่างคอมพิวเตอร์ของท่านและเว็บไซต์ของบริษัท เว็บไซต์ของบริษัทอาจใช้คุกกี้ใน บางกรณีโดยใช้คุกกี้เฉพาะเพื่อการจัดเก็บข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่านในครั้งถัดไปที่ท่านกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้ เรามีการใช้คุกกี้ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กำหนดไว้ตามนโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Policy) เมื่อท่านเข้าใช้บริการเว็บบราวเซอร์ ท่านสามารถตั้งค่าเพื่อ ยอมรับคุกกี้ทั้งหมดหรือปฏิเสธคุกกี้ทั้งหมด หรือแจ้งเตือนให้ท่านทราบเมื่อมีการส่งคุกกี้ โดยท่านสามารถเข้าไปตั้งค่าที่เมนู “ความช่วยเหลือ” ใน บราวเซอร์ของท่านเพื่อเรียนรู้วิธีการเปลี่ยนแปลงการใช้คุกกี้ของท่านได้โปรดทราบว่าการปิดการใช้งานคุกกี้อาจส่งผลต่อการใช้งานบางบริการของ ท่านได้
บริษัทอาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งเกี่ยวกับความสนใจและบริการที่ท่านใช้ ซึ่งอาจประกอบด้วยเรื่อง เชื้อชาติ ศาสนาหรือปรัชญา ข้อมูล สุขภาพ ของท่าน ข้อมูลชีวภาพ ทุพพลภาพ ความพิการ อัตลักษณ์ หรือข้อมูลอื่นใด ที่จะเป็นประโยชน์ในการให้บริการ ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าว ข้างต้น บริษัทจะ ขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่
3.4. เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พระราชบัญญัติ การประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่งและอาญา เป็นต้น
3.5. เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
3.6. เพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
3.7. เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บริษัท
3.8. เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
3.9. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
3.10. เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำ สถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม
3.11. ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งาน ผ่านเครื่องมือดังต่อไปนี้ Google Analytics, Google AdWords, Google Data Studio (Looker Studio), Microsoft Clarity, Tiktok Pixel และ Facebook Pixel เพื่อวิเคราะห์ความสามารถของ platform รวมถึงวางแผนการพัฒนา platform ในอนาคต โดยเป็นข้อมูลการใช้งานและไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลใดๆทั้งสิ้น
4. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะดำเนินการจัดเก็บรวบรวม ใช้ ปรับปรุงและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ให้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ ขอบเขต และตามวิธีการที่กฎหมายหมายกำหนด บริษัท จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ท่านได้ให้มา เพื่อดำเนินการตามความประสงค์ในการให้บริการตามธุรกรรมที่ตกลงระหว่างท่านกับบริษัท โดยทางบริษัทจะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือจากที่ระบุไว้ขณะเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าว โดยทางบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
4.1 เพื่อติดต่อและให้บริการ หรือตอบคำถามตามที่ท่านร้องขอ
4.2 เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างคู่สัญญากับบริษัท รวมถึงการบริหารจัดการนิติสัมพันธ์ระหว่างกัน
4.3 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เช่น เพื่อการบริหารจัดการภายใน การจัดการ เพื่อจัดทำแผนการตลาด วิเคราะห์ ประมวลผลข้อมูล การใช้ รวมถึงการปรับปรุง พัฒนาผลิตภัณฑ์ และการดำเนินการใด ๆ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ ซึ่งรวมถึงการบริหารจัดการและพัฒนาสินค้า และ/หรือ บริการ (รวมถึงเว็บไซต์ ช่องทางการซื้อขายออนไลน์อื่นๆ และแอปพลิเคชัน) การวิจัย เช่น ทำแบบสอบถาม เข้าสัมภาษณ์ การตรวจสอบและ ป้องกันการฉ้อโกง หรืออาชญากรรมอื่น ๆ และการบำรุงรักษาระบบสารสนเทศ เป็นต้น
4.4 เพื่อประโยชน์ทางด้านความปลอดภัย เช่น จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย รวมถึงระบบไอที สารสนเทศ เช่น การเข้าสถานที่ของเรา การเข้าสู่ระบบ (Log in) เข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน เป็นต้น
4.5 เพื่อการแจ้งข่าวสารและสิทธิประโยชน์ผ่านทาง จดหมาย เอกสารโต้ตอบ โทรศัพท์ หนังสือ อีเมล SMS แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย และอื่น ๆ หรือ เพื่อการจัดส่งสิ่งดังกล่าวซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณบางประการบนหน้าซอง/หีบห่อจดหมายด้านนอก
4.6 เพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
4.7 เพื่อรวบรวมข้อมูลเป็นฐานข้อมูลของบริษัท หรือข้อมูลเชิงสถิติเกี่ยวกับจำนวนผู้เยี่ยมชมและใช้บริการเว็บไซต์
4.8 เพื่อรักษาและควบคุมการอัปเดตซอฟต์แวร์และ/หรือการอัปเดตอื่นๆ และให้การสนับสนุนที่จำเป็นในบางคราวเพื่อให้แน่ใจว่าบริการของเราจะเป็นไป อย่างราบรื่น หรือ เพื่ออนุญาตให้บุคคลอื่นปฏิสัมพันธ์หรือเชื่อมต่อกับคุณบนแพลตฟอร์ม และรวมถึงเพื่อแจ้งให้คุณทราบเมื่อผู้ใช้คนอื่นส่งข้อความ ส่วนตัวหรือโพสต์ความคิดเห็นให้คุณบนแพลตฟอร์ม, ส่งให้แก่บุคคลที่สามหรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการของบริษัทฯ เช่น บริษัทขนส่ง
4.9 การกระทำอื่นที่ท่านให้ความยินยอม
4.10 เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อยกเว้นตามกฎหมาย
4.11 เพื่อใช้ในการประมวลผล บริหารจัดการ พิจารณา ให้บริการและการดำเนินงานต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทที่มีอยู่ในปัจจุบัน และอาจมีขึ้นใน อนาคต และรวมถึงการใด ๆ เพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล ตลอดจนนำไปใช้ในการจัดทำบัญชี งบการเงิน และข้อมูลทางบัญชีของบริษัท
4.12 เพื่อใช้ในการติดตามและเรียกเก็บค่าบริการ ค่างวด ค่าเสียหาย ค่ามัดจำ ค่าธรรมเนียมตามสัญญาเช่าซื้อ สัญญาฝากขาย สัญญาฝากเช่าและ หนี้สินอื่นใด (ถ้ามี) จากเจ้าของข้อมูล ซึ่งบริษัทมีสิทธิตามกฎหมาย
4.13 เพื่อใช้ในการแก้ไข ยกเลิก และ/หรือต่ออายุสัญญาเช่าซื้อ สัญญาฝากขาย สัญญาขาย สัญญาเช่า สัญญาฝากเช่า สัญญาจ้าง และสัญญาอื่นใด ระหว่างเจ้าของข้อมูลกับบริษัท
4.14 เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ เสนอ ให้ใช้ เพื่อการวิจัยการตลาดและ/หรือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและ/หรือเพื่อประโยชน์ในการจัดทำ ฐานข้อมูลและใช้ข้อมูลเพื่อเสนอสิทธิประโยชน์ตามความสนใจของ เจ้าของข้อมูล และ/หรือปรับปรุงการให้บริการ การดำเนินการ หรือผลิตภัณฑ์ของ บริษัท
4.15 เพื่อปฏิบัติตามระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ รวมตลอดถึงข้อกำหนดอื่นใดซึ่งบริษัทมีหน้าที่ผูกพันในการปฏิบัติตามกฎหมาย
4.16 เพื่อการนำเสนอข้อมูล ติดตาม ประสานงาน และการให้บริการหลังการขายรวมตลอดถึงเพื่อการจัดทำบริการทางอิเล็คทรอนิกส์
4.17 เพื่อดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอน ถ่าย ถูกจัดเก็บไว้ หรือถูกประมวลผลโดยบริษัทหรืออาจถูกส่งให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานใด ๆ ซึ่งอาจมีที่ตั้งหรือ อาจให้บริการอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ ทั้งนี้ บริษัทจะกำหนดมาตรฐานในการทำข้อตกลง และ/หรือ สัญญาร่วมธุรกิจกับหน่วยงาน องค์กร ที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ในมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูล ส่วนบุคคลของท่าน จะได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัยเป็นที่สุด
กรณีที่บริษัทฯจะโอน ถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลไปยังต่างประเทศ เช่น
(1) การใช้สินค้าหรือบริการต่อในต่างประเทศ
(2) กรณีที่บริษัทมีจัดเก็บ โอนย้าย ถ่ายข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการจัดเก็บในต่างประเทศ
(3) การให้บริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าหรือบริการของบริษัท
บริษัทจะโอนย้าย ถ่าย ส่งต่อข้อมูลไปยังต่างประเทศต่อเมื่อปรากฏว่า ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ เช่น
(1) การประมวลผลในระบบคลาวด์ (Cloud) โดยองค์กรที่มีมาตรฐานความมั่นคง
(2) จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบการเข้ารหัส หรือวิธีการอื่น ๆ ที่ไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ และรูปแบบนั้นมีความ ปลอดภัยระดับสากล
5. ข้อจำกัดในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดและจะไม่ทำการใช้หรือเปิด เผยข้อมูลดังกล่าวต่อบุคคลภายนอกโดยไม่ได้รับความ ยินยอมของเจ้าของข้อมูล เว้นแต่เพื่อปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น หรือตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องทำการเปิดเผย โดยจะเปิดเผยข้อมูลส่วน บุคคลให้กับหน่วยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องดังนี้
5.1 กลุ่มธุรกิจ พันธมิตรทางธุรกิจ ของบริษัท รวมตลอดถึงหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ในการให้บริการในการประมวลผล บริหารจัดการ พิจารณา ให้บริการและการดำเนินงานต่าง ๆ ที่เจ้าของข้อมูลได้รับและอาจได้รับในอนาคต ข้อมูลที่อาจส่งต่อได้แก่ ชื่อลูกค้า ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลข โทรสาร ที่อยู่อีเมล ชื่อบริษัท (องค์กร) ตำแหน่งงาน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขาย โดยจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ในการบริการ เท่านั้น
5.2 บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด รวมตลอดถึงบริษัทในเครือกิจการหรือเครือธุรกิจเดียวกัน หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
5.3 พนักงาน ผู้รับมอบอำนาจ ตัวแทน บุคคลหรือนิติบุคคลผู้ให้บริการการรับจดทะเบียนยานพาหนะ และ/หรือบริการด้านการเร่งรัดหนี้สิน และ/หรือผู้ตรวจสอบบัญชีของบริษัท และ/หรือบริการและการดำเนินงานต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทที่มีอยู่ในปัจจุบันและอาจมีขึ้นในอนาคต
5.4 พนักงาน ผู้รับมอบอำนาจ ตัวแทน บุคคล นิติบุคคลหรือหน่วยงานอื่นใด wเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายหรือก่อตั้งสิทธิตามสัญญา ของบริษัท
5.5 กลุ่มเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล ตามหัวข้อการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด โดยปฎิบัติตามเงื่อนไขการใช้งานข้อมูล Google API Services User Data Policy เพื่อใช้ในการจัดการข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่ง่ายต่อการใช้งาน (https://developers.google.com/terms/api-services-user-data-policy)
ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จะได้รับความคุ้มครองและพันธมิตรทางธุรกิจหรือบุคคลที่ สามที่บริษัท เปิดเผยข้อมูลจะดำเนินการตามที่บริษัทกำหนด และจะไม่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์หรือผลประโยชน์ของบุคคลที่สามนั้นเอง มาตรการดังกล่าวอาจรวม ถึงการทำสัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจและบุคคลที่สามตามที่บริษัทเห็นสมควร ในกรณีที่ท่านให้ความยินยอม บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลของท่านกับบริษัทที่เป็น พันธมิตร (partners) หรือบุคคลอื่น เพื่อที่บริษัทจะได้เสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการไปยังท่าน บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลของท่านไปยังบริษัทที่เป็นพันธมิตรของ บริษัทหรือบุคคลอื่น ทั้งนี้ บุคคลอื่น หรือบริษัทที่เป็นพันธมิตรของบริษัทนั้น อาจมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
ทั้งนี้แพลตฟอร์มของบริษัท อาจมีลิงก์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ โปรดทราบว่าบริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการปฏิบัติเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้โดยเว็บไซต์ อื่นนอกเหนือจากเว็บของบริษัทเอง
6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทให้ความสำคัญกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้กำหนดสิทธิของเจ้าของข้อมูลในการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของตนซึ่งบริษัทเก็บ รวบรวมไว้เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิตามกฎหมายโดยจะได้กล่าวต่อไปนี้ โดยสามารถแจ้งให้ทางบริษัททราบเป็นลายลักษณ์ อักษรผ่านทางอีเมล [email protected] เพื่อแจ้งความประสงค์ดังกล่าว
6.1 ขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่บริษัทกำหนด หรือขอให้ เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม โดยบริษัทจะนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ท่านภายในกำหนดระยะเวลา 30 (สามสิบ) วัน นับแต่มีการส่งคำขอถึงบริษัท
6.2 ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนจากบริษัทได้ ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
6.3 คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ที่กฎหมายอนุญาตให้เก็บได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ให้ข้อมูล เมื่อใดก็ได้
6.4 ขอให้บริษัทลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีตามที่กฎหมาย กำหนด
6.5 ขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีตามที่กฎหมายกำหนด
6.6 แจ้งให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
6.7 ร้องเรียนในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฝ่าฝืนหรือ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
6.8 แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล โดยท่านสามารถขอให้บริษัทแก้ไขข้อผิดพลาดหรือข้อมูลที่ขาดหายในข้อมูลส่วนบุคคล
7. การเพิกถอนความยินยอม
เจ้าของข้อมูลสามารถเพิกถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวข้างต้นเสียเมื่อใดก็ได้ ด้วยการ แจ้งความประสงค์ให้บริษัททราบพร้อมทั้งเหตุผลแห่งการนั้น โดยบริษัทจะดำเนินการตามที่ได้รับแจ้งเว้นแต่กรณีมีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดย กฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ เจ้าของข้อมูล
ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่เจ้าของข้อมูลส่วน บุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านั้น
8. การปฏิเสธและการจัดทำบันทึก
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลร้องขอให้บริษัทดำเนินการตามที่ระบุไว้ในข้อ 6.1-6.7 หรือ ข้อ 7 บริษัทจะดำเนินการตามที่ได้รับคำร้องขอภายในเวลาที่เหมาะสมและ ตามขั้นตอนการปฏิบัติของบริษัท เว้นแต่ในกรณีดังนี้ บริษัทอาจปฏิเสธการดำเนินการดังกล่าวได้
8.1) โดยสภาพแล้วไม่อาจดำเนินการดังกล่าวได้
8.2) เป็นการปฏิเสธตามกฎหมายหรือตามคำสั่งศาล และการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อสิทธิและเสรีภาพบุคคลอื่น
8.3) การส่งหรือการโอนข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือการใช้สิทธิ ดังกล่าวอาจเป็นการละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น
8.4) การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้แสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า
8.5) การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นไปเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตาม กฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายในกรณีที่บริษัทปฏิเสธไม่ดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลให้ดำเนินการอย่างใด อย่างหนึ่งตามข้อ 7.1-7.8 หรือ ข้อ 8 นั้น บริษัทจะจัดทำรายงานการบันทึกการปฏิเสธพร้อมเหตุผลแห่งการปฏิเสธจัดเก็บไว้ในฝ่าย แผนก หรือ หน่วยงานอื่นใดภายในบริษัทซึ่งปฏิเสธคำร้องขอของเจ้าของข้อมูล
9. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและคุณภาพของข้อมูล
บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคง ปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต นอก จากนี้คณะกรรมการของบริษัทยังได้จัดทำนโยบาย ระเบียบปฏิบัติ คู่มือ แนวทางและอบรมให้ความรู้ ในการเก็บรักษา ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ พนักงานของบริษัทในทุกระดับชั้นดำเนินการเก็บรักษา ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลปฏิบัติตามมาตราฐานของบริษัทและสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
10. คณะทำงานตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
บริษัท ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เพื่อศึกษา เตรียมความพร้อม ดำเนินการและให้คำปรึกษา เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
11. ระยะเวลาการเก็บและการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะจัดเก็บรักษาข้อมูลตามที่ได้รับจากเจ้าของข้อมูลตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นเท่านั้น เว้นแต่ใน กรณีที่มีกฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะให้เก็บไว้ได้นานกว่านั้น หรือ เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิ เรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อดำเนินการตามสัญญาซึ่งบริษัทมีสิทธิตามกฎหมาย
บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในระยะเวลาที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือภายในระยะเวลาที่มีสัญญาหรือนิติสัมพันธ์ตามกฎหมายระหว่างท่านและบริษัท หรือภายในระยะเวลาการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของคู่สัญญา เว้นแต่ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะให้เก็บไว้ได้นานกว่านั้น หรือ เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อดำเนินการตามสัญญาซึ่งบริษัทมีสิทธิตามกฎหมาย
โดยมีมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสมควรเพื่อป้องกันการเข้าถึง การรวบรวม การใช้ การเปิดเผย การทำสำเนา การดัดแปลง การกำจัดข้อมูล หรือความเสี่ยงในลักษณะเดียวกันโดยไม่ได้รับอนุญาต หากพ้นระยะเวลาดังกล่าว บริษัทจะมีการดำเนินการในขั้นตอนอันเหมาะสม เพื่อทำการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ ตามระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นทันที บริษัทจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวในเว็บไซต์โดยไม่ต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า
หมายเหตุ
- การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางบริษัทอาจแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัวโดยไม่แจ้งล่วงหน้า โดยประกาศบนเว็บไซต์พร้อมระบุวันที่ แก้ไขเพิ่มเติมครั้งล่าสุด โดยถือว่าท่านยอมรับนโยบายที่เปลี่ยนแปลงนั้นแล้ว ทางบริษัทจะไม่แจ้งการแก้ไขดังกล่าวให้ท่านทราบเป็นรายบุคคล
- แนวปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
12. ช่องทางการติดต่อบริษัท
บริษัท แวร์สแวป จำกัด
32 นวมินทร์ 74 แยก 3-8-24 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร 10230
Email: [email protected]
แก้ไขล่าสุด 31 ตุลาคม 2566